หน้าแรก
>
บทความ
สิว ฝ้า กระ เกิดจาก สาเหตุอะไรได้บ้าง ?
โดย
พญ. คีรีวัลคุ์ แสงอากาศ
18 ก.ย. 2566 20:56 น.
สิว เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ?
สิว นั้นมีสาเหตุเกิดมาจากปัจจัยภายในร่างกาย 4 ปัจจัยหลัก ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจส่งผลให้เกิดวงจรการเกิดสิวต่อเนื่อง และรุนแรงได้
- การอุดตันของรูขุมขน โดยเกิดจากเซลล์หนังกำพร้าชั้นนอกสุด มีการหนาตัวขึ้นผิดปกติ ร่วมกับเกิดความผิดปกติของกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ทำให้เกิดการอุดตันบริเวณรูขุมขน จนทำให้เกิดการสร้างสิวอุดตันขนาดเล็กขึ้น
- ความผิดปกติของต่อมไขมัน โดยปกติแล้วต่อมไขมันจะผลิตไขมันหล่อเลี้ยงบริเวณผิวหนังโดยมีปริมาณและส่วนประกอบของไขมันที่เหมาะสม แต่ในผู้ป่วยที่เป็นสิวจะเกิดความผิดปกติของส่วนประกอบของไขมันบริเวณผิวหนัง ร่วมกับมีการสะสมของไขมันบริเวณรูขุมขนที่เกิดการอุดตันเพิ่มมากขึ้น
- เชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes (C.acnes) หรือชื่อเดิมคือ Propionibacterium acnes (P.acnes) ซึ่งเป็นเชื้อที่เจริญและอาศัยอยู่บริเวณรูขุมขน ในผู้ป่วยที่เป็นสิวมีการสะสมของเซลล์ผิวหนังและไขมันบริเวณรูขุมขนที่อุดตันมากขึ้น ส่งผลให้มีแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะสมกับการเพิ่มจำนวนของเชื้อแบคทีเรียในบริเวณรูขุมขนที่มีการอุดตัน ทำให้เกิดสิวขึ้นในที่สุด
- การอักเสบบริเวณรูขุมขน ผู้ป่วยสิวที่มีการสะสมของเซลล์ผิวหนัง ไขมัน และเชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes บริเวณรูขุมขน มากขึ้นจนทำให้เกิดสิวอุดตันเริ่มมีการขยายตัวใหญ่มากขึ้นจนทำให้แตกออกสู่ผิวหนังบริเวณข้างเคียง และกระตุ้นให้เกิดการอักเสบขึ้น ทำให้มองเห็นจากภายนอกเป็นสิวอักเสบที่มีอาการปวด บวม และกดเจ็บ
นอกจากปัจจัยภายในแล้ว ยังมีปัจจัยภายนอกร่างกายอีกมากมาย ที่อาจส่งผลให้เกิดสิวได้ เช่น การรับประทานอาหารบางชนิด, การรับประทานยาหรืออาหารเสริมบางชนิด, การใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่มีฤทธิ์กระตุ้นการเกิดสิว, การกดทับหรือเสียดสีบริเวณผิวหนังบ่อยๆ จากภายนอก, การใส่หน้ากากต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน หรือการกระตุ้นสิวจากการประกอบอาชีพบางชนิด
“สิว” จัดเป็นปัญหากวนใจเรื้อรัง และอาจส่งผลกระทบต่อผิวหนังในระยะยาว เช่น รอยสิว ไปจนถึงแผลเป็นหลุมสิว นอกจากนี้ในบางรายที่เป็นสิวรุนแรงอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจ ทำให้ขาดความมั่นใจได้ รอยโรคของสิวมีอยู่หลายรูปแบบ ได้แก่ สิวอุดตัน สิวอักเสบที่เป็นตุ่มแดง ตุ่มหนอง ไปจนถึงสิวอักเสบขนาดใหญ่
โดยสิวมักจะเริ่มต้นเกิดขึ้นในช่วงของวัยรุ่น ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ที่หลายคนอาจต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงนี้จนกระทั่งถึงวัยผู้ใหญ่ ซึ่งวัยรุ่นประมาณ 80-90% มักมีปัญหาสิว และใน 20-30% ของคนเหล่านี้ต้องการการดูแลและคำแนะนำในการรักษาจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ โดยการรักษาจะถูกแบ่งตามระดับความรุนแรงของสิวและประเภทของสิว การเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว การดูแลรักษาสิวที่เหมาะกับสภาพผิวและความรุนแรงของสิว รวมไปถึงการเลือกใช้เวชสำอางที่เหมาะสม จะช่วยให้การรักษาสิวมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
ฝ้าคืออะไร?
ฝ้า (Melasma) หรือ เมลาสมา ดูง่าย ๆ คือ จะเป็นแผ่น ๆ ปื้น ๆ มีหลายขนาด หลายรูปร่าง หลายสี ตั้งแต่ฝ้าสีเข้มจนไปถึงฝ้าสีอ่อน ๆ จาง ๆ ขึ้นอยู่กับว่าฝ้านั้นเกิดขึ้นที่ผิวหนังชั้นไหน หนังแท้ หรือหนังกำพร้า ซึ่งฝ้าแบ่งออกได้ 3 ชนิด ดังนี้
- ฝ้าตื้น คือ ฝ้าที่เกิดขึ้นในชั้นหนังกำพร้า
- ฝ้าลึก คือ ฝ้าที่เกิดขึ้นในชั้นหนังแท้ มีสีน้ำตาลผสมเทาเข้ม รักษาหายยากกว่าฝ้าแบบตื้น
- ฝ้าผสม คือ ฝ้าที่มีลักษณะของฝ้าตื้นและฝ้าลึกผสมกัน ซึ่งกระจายกันไปทั่วทั้งใบหน้า
สาเหตุหลักของการเกิดฝ้า
- รังสี UV ที่เราเผชิญในทุก ๆ วัน เนื่องจากเมื่อผิวเราได้รับรังสี UV มากขึ้น เม็ดสีเมลานินที่อยู่บนหน้าเราก็จะถูกผลิตเยอะขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้เกิดฝ้า ที่มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงเข้มขึ้นมา
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์บางคนก็อาจมีฝ้า เกิดขึ้นมาได้ ซึ่งนั่นเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย
- เครื่องสำอางและครีมทาหน้าบางประเภทที่มีส่วนผสมของน้ำหอม สี หรือฮอร์โมน ก็อาจส่งผลให้เกิดฝ้าได้ด้วยเช่นกัน
- ความเครียดสะสม
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ
กระคืออะไร?
กระ (Freckles) จะเป็นจุดเล็กๆ กลมๆ มีขอบชัดเจน กระจายอยู่ทั่วใบหน้า โดยเฉพาะแก้ม และหน้าผาก บางคนอาจขึ้นบริเวณลำคอ แขน ขา โดยสีของกระจะมีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้มชัด ซึ่งสามารถแบ่งได้ 4 ชนิดคือกระตื้น กระลึก กระเนื้อ และกระแดด แต่ละชนิดจะเป็นอย่างไร สามารถสังเกตได้ดังนี้
- กระตื้น ลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็กๆ มักขึ้นบริเวณโหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง ส่วนมากเกิดจากกรรมพันธ์ ทำให้เซลล์เม็ดสีไวต่อแดด ควรปกป้องด้วยครีมกันแดด เพื่อลดการขยายเมื่อถูกกระตุ้นด้วยแสงแดด
- กระลึก ลักษณะเป็นจุดเล็กๆ หรือแผ่นสีน้ำตาล เทา ดำ ขอบไม่ชัด มักขึ้นที่โหนกแก้ม ดั้งจมูก และขมับ เกิดจากความผิดปกติของเซลล์เม็ดสีบริเวณชั้นหนังแท้ หากเป็นช่วงวัยรุ่นหรือช่วงตั้งครรภ์อาจเห็นชัดขึ้น
- กระเนื้อ ลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อนและน้ำตาลเข้ม ขึ้นบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอก หลัง เกิดจากผิวหนังชั้นหนังกำพร้าเจริญเติบโตกว่าปกติ จะถูกกระตุ้นด้วยแสงแดดและอายุที่มากขึ้น
- กระแดด ลักษณะเป็นจุดหรือปื้นเรียบๆ มีสีน้ำตาลหรือสีดำขนาดเล็กและขอบชัด มักเกิดขึ้นในผู้ใหญ่ที่มีผิวขาวและมีอายุมาก
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม
พญ.คีรีวัลคุ์ แสงอากาศ (หมอกวาง)
แพทยศาสตร์บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ1
จบเฉพาะทางสาขาอายุศาสตร์ทั่วไป
รับราชการเป็นแพทย์ชำนาญโรงพยาบาลราชบุรี
มีประสบการณ์ด้าน Cosmetic 10 ปีและเปิด Adela Clinic ตั้งแต่ปี2556 เข้าสู่ปีที่8
สาระน่ารู้กับคุณหมอ